Italy
วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
การเดินทาง
การเดินทางในอิตาลี
ประเทศอิตาลีมีถนนความยาวทั้งหมด 487,700 กิโลเมตร เชื่อมต่อ 13 ประเทศรอบอิตาลี มีสนามบินทั้งหมด 132 แห่ง โดยที่เป็นศูนย์กลางการบิน 2 แห่ง คือ สนามบินนานาชาติเลโอนาร์โด ดา วินชี ในกรุงโรม และสนามบินนานาชาติมัลเปนซา ในมิลาน มีสายการบินสู่ประเทศ 44 ประเทศ (ค.ศ. 2008) มีทางรถไฟความยาวทั้งหมด 19,460 กิโลเมตร เชื่อมต่อ 16 ประเทศ
ขนส่งมวลชน
การคมนาคมในอิตาลีค่อนข้างสะดวกมีทั้งรถเมล์และรถไฟใต้ดิน ซึ่งมีอยู่ 2 สาย คือสาย A สาย B ในตัวเมืองการจราจรจะค่อนข้างติด สำหรับตั๋วโดยสารรถประจำทางและรถไฟใต้ดินของกรุงโรมมีหลายชนิด คือ
- ตั๋ว 1 ยูโร ใช้ได้เป็นเวลา 75 นาที
- ตั๋ววัน ราคา 4 ยูโร
- ตั๋ว 3 วัน ราคา 11 ยูโร
- ตั๋วสัปดาห์ราคา 16 ยูโร
- ตั๋วเดือนราคา 30 ยูโร (ตั๋วนักเรียน 18 ยูโร)
- ตั๋วปีราคา 230 ยูโร
- ตั๋ว 75 นาที ตั๋ววัน ตั๋วสัปดาห์ ตั๋วเดือนสามารถซื้อได้ที่ร้านขายหนังสือพิมพ์ ร้านกาแฟ ร้านบุหรี่ ส่วนตั๋วปีต้องไปซื้อที่สถานีรถไฟ การขึ้นรถประจำทางจะต้องตอกตั๋วรถ บนรถประจำทางด้วยหากขึ้นรถโดยไม่ตอกตั๋วและไม่มีตั๋วโดยสารจะต้องถูกปรับอย่างต่ำ 50 ยูโร
รถแท๊กซี่
ต้องไปขึ้นที่ป้ายจอดคิวแท็กซี่ หรือโทร 06-3570 หรือโทร 06-4994 หรือโทร 06-6646 คิดค่าโดยสารตามระยะทาง และหากมีกระเป๋าสัมภาระจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มใบละ 1ยูโร วันหยุดราชการและหลัง 4 ทุ่ม ในแต่ละวันต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม ทั้งนี้ บนรถแท็กซี่ทุกคันจะมีประกาศกำหนดราคาค่าแท็กซี่ สนามบินเลโอนาร์โด ดา วินซี (Leonardo da Vinci) หรือที่เรียกกันว่า สนามบินฟิวมิชิโน (Fiumicino) อยู่ห่างกรุงโรม 40 กม. รถไฟด่วนจากสนามบินถึงสถานีรถไฟใจกลางกรุงโรมใช้เวลาประมาณ 30 นาที หากใช้บริการแท็กซี่จากสนามบินจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 40-55 ยูโร (ไม่รวมค่าธรรมเนียมสัมภาระ) ขึ้นอยู่กับระยะทางและการติดขัดของการจราจร
สถานที่ท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอิตาลี
Piazza di Spagna
บันไดสเปน (Spanish Steps) เป็นบันไดในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่เชื่อมระหว่าง Piazza di Spagna และ Piazza Trinit? dei Monti เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น
Basillica di San Pietro
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Basilica of Saint Peter) ชาวอิตาลีเรียกกันว่า Basilica di San Pietro in Vaticano หรือเรียกสั้นๆว่าเซนต์ปีเตอร์บาซิลิกา (Saint Peter’s Basilica) มหาวิหารนี้เป็นมหาวิหารหนึ่งในสี่ของมหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี อีกสามมหาวิหารคือ: มหาวิหารเซ็นต์จอห์แลเตอร์รัน, มหาวิหารซานตามาเรียมายอเร และ มหาวิหารเซ็นต์พอลนอกกำแพง
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในนครรัฐ วาติกันสร้างทับวิหารเดิมที่ชื่อเดียวกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่นสามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม
นครรัฐวาติกันเป็น นครรัฐเล็กๆที่ปกครองตนเองแยกออกจากรัฐบาลอิตาลี ผู้ปกครองสูงสุดของวาติกันคือ องค์พระสันตะปาปาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่หนึ่งของคริสตชนนิกายโรมันคาทอลิก ที่ตั้งวัดเชื่อกันว่าเป็นที่ฝังร่างของ นักบุญปีเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาวกสิบสององค์ของพระเยซู นักบุญปีเตอร์เดิมเป็นบาทหลวงองค์แรกของอันติโอก (Antioch) ต่อมาก็ได้สถาปนาขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของโรม เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ระหว่างการออกอากาศทางวิทยุสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ประกาศว่าได้มีการค้นพบที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ หลังจากที่นักโบราณคดีใช้เวลา 10 ปี ศึกษาขุดค้นห้องใต้ดิน (crypt) ภายในมหาวิหาร
Pieta
Pieta เป็นหนึ่งในประติมากรรมแกะสลักหินอ่อนที่ดีที่สุดในโลก เป็นผลงานของไมเคิลแองเจลโล ภาพนี่เป็นmomentขณะที่พระแม่มารีเข้าไปอุ้มร่างไร้วิญญาณของพระเยซูที่ถูกปลดจากการตรึงบนกางเขน ลองดูใบหน้าพระแม่มารี สีหน้า แววตา ดูเศร้า ได้อารมณ์และงดงามสุดๆ รายละเอียดความพริ้วของเสื้อผ้าที่แกะจากหินอ่อนทั้งก้อน สรีรภาพของพระเยซู รอยตะปูบนหลังมือเท้าของพระเยซู สุดสุด
ตอนที่ไมเคิลแองเจลโลแกะรูปนี้เขาเป็นศิลปินโนเนมวัย 23 ปีที่เดินทางจากบ้านนอกเมืองฟลอเรนซ์มาโรม ตอนแกะรูปนี้เสร็จ คนในโรมตะลึงในความงาม โดยเข้าใจว่าคนที่แกะเป็นศิลปินอีกท่านนึงที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น จนวันหนึ่ง ไมเคิลแองเจลโลจึงได้ทำสิ่งที่เขาทำครั้งแรกและครั้งสุดท้าย คือแอบมาสลักชื่อตัวเองบนรูปแกะสลัก Michael Angelus Bonarotus Florentinus Faciebat คือนามเต็มของยอดศิลปินผู้นี้ ซึ่งเป็นผลงานเดียวที่เขาสลักชื่อไว้ ว่ากันว่า ไมเคิลแองเจลโลเสียมารดาก่อนมากรุงโรม รูปนี้จึงแกะสลักออกมาได้อย่างได้อารมณ์ของการสูญเสียคนที่รัก และเขาก็แจ้งเกิดจาก Pieta
La Torre di Pisa
หอเอนเมืองปิซา (อิตาลี: Torre pendente di Pisa หรือ La Torre di Pisa, อังกฤษ: Leaning Tower of Pisa) ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) น้ำหนักรวม 14,500 ตันโดยประมาณ มีบันได 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร
เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา
The Colosseo
สนามกีฬาโคลอสเซียม (ประเทศอิตาลี) - The Colosseum หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ขของโลกที่ได้รับการคัดเลือกจาก องค์กร New 7 Wonders เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือประมาณปี ค.ศ. 80 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบัน
แต่เดิมสัญลักษณ์ของกรุงโรมแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า ฟลาเวียน แอมพิเธียเตอร์ ตามนามสกุลของจักรพรรดิผู้ให้การสนับสนุนการก่อสร้าง โดยนับเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมาใน สมัยอาณาจักรโรมัน ครั้นเมื่อเสร็จสมบูรณ์ โคลอสเซี่ยมได้ถูกใช้จัดการแข่งขันกลาดิเอเตอร์ การประหาร และการแสดงละครเกี่ยวกับทวยเทพเพื่อมอบความบันเทิงให้แก่ผู้ชม ปัจจุบัน สนามกีฬาโคลอสเซียมได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านโทษประหารชีวิต โดยโคลอสเซียมจะส่องสว่างด้วยสีเหลืองทุกครั้งที่มีการกลับคำตัดสินหรือยก เลิกโทษประหารชีวิตไม่ว่าจะที่ใดในโลก ในบางครั้งจะมีการเรียกชื่อ โคลิเซียม (Coliseum)
Fontana di Trevi
น้ำพุเทรวี่แห่งนี้ เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" ที่แห่งนี้เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดเป็นอันขาด เนื่องจากมีความสวยงาม ทางสถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก แต่กว่าจะออกมาสวยแบบนี้ มีการสร้างขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งลงตัวที่แบบดีไซน์ของ สถาปนิกชื่อ Francesco Salvi ในช่วงศตวรรษที่ 17 นี้เอง น้ำพุเทรวี่นี้ ถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่สร้างความประทับให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเลยที เดียว ส่วนกลางของน้ำพุนั้น มีรูปปั้นของเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ขี่รถม้าติดปีก แสดงถึงความมีสุขภาพที่แข็งแรง และความอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักร
ตามธรรมเนียมแล้ว นักท่องเที่ยวที่มาชมน้ำพุเทรวี่แห่งนี้ ควรจะโยนเหรียญ 1 เหรียญลงไปในสระ โดยมีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญลงไปแล้ว จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้งนึง
เมืองหลวง
ROME
โรม (อิตาลี: Roma; อังกฤษ: Rome) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอและประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ในเขตตัวเมืองมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2.5 ล้านคน ถ้ารวมเมืองโดยรอบจะมีประมาณ 4.3ล้านคน โดยมีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับมิลานและเนเปิลส์
เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ทั่วโลกกรุงโรมมีอัตราของการเกิดอาชญากรรมเล็กน้อยแต่ยังนับได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยพยายามหลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าฉูดฉาดเตะตาเครื่องประดับราคาแพงถือกระเป๋าที่เปิดทิ้งไว้หรือเก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ในที่ที่สามารถหยิบฉวยได้ง่ายโจรล้วงกระเป๋ามักแฝงตัวอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีคนแออัดควรถือกระเป๋าเงินและกระเป๋าหิ้วของคุณอย่างระมัดระวังและเก็บให้อยู่ห่างจากด้านการจราจรของถนนหากกระเป๋าของถูกขโมยบนรถบัสให้ส่งเสียงดังมากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ คนขับรถจะหยุดรถประจำทางและล็อคประตูหากนักล้วงกระเป๋ายังอยู่บนรถบัสเขาจะทิ้งกระเป๋าสตางค์ไว้บนพื้นรถบัส
นอกจากนี้ โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วยหลังสิ้นสุดยุคกลาง โรมได้อยู่ภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปา เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 และสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 ผู้ซึ่งสร้างสรรค์ให้โรมกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีเช่นเดียวกับฟลอเรนซ์ ซึ่งในยุคสมัยดังกล่าว ได้มีการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แบบที่เห็นในปัจจุบัน และมีเกลันเจโลได้วาดภาพปูนเปียกประดับภายในโบสถ์น้อยซิสทีน ศิลปินและสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่างบรามันเต แบร์นินี และราฟาเอล ซึ่งพำนักอยู่ในโรมเป็นครั้งคราวได้มีส่วนช่วยสรางสรรค์สถาปัตยกรรมแบบสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและแบบบารอกในโรมด้วยเช่นกัน
ใน พ.ศ. 2550 โรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี ศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ใจกลางเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกนอกจากนี้ อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์อย่างพิพิธภัณฑ์วาติกันและโคลอสเซียมยังจัดอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากที่สุด50 อันดับแรกของโลก (พิพิธภัณฑ์วาติกันมีนักท่องเที่ยว 4.2 ล้านคนต่อปี และโคลอสเซียมมี 4 ล้านคนต่อปี)
![]() |
| ธง |
![]() |
| ตราแผ่นดิน |
เกร็ดความปลอดภัยสำหรับเที่ยวโรม
เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ทั่วโลกกรุงโรมมีอัตราของการเกิดอาชญากรรมเล็กน้อยแต่ยังนับได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยพยายามหลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าฉูดฉาดเตะตาเครื่องประดับราคาแพงถือกระเป๋าที่เปิดทิ้งไว้หรือเก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ในที่ที่สามารถหยิบฉวยได้ง่ายโจรล้วงกระเป๋ามักแฝงตัวอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีคนแออัดควรถือกระเป๋าเงินและกระเป๋าหิ้วของคุณอย่างระมัดระวังและเก็บให้อยู่ห่างจากด้านการจราจรของถนนหากกระเป๋าของถูกขโมยบนรถบัสให้ส่งเสียงดังมากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ คนขับรถจะหยุดรถประจำทางและล็อคประตูหากนักล้วงกระเป๋ายังอยู่บนรถบัสเขาจะทิ้งกระเป๋าสตางค์ไว้บนพื้นรถบัสการแลกเปลี่ยนเงินตราในโรม
คุณสามารถแลกเงินที่ธนาคารไปรษณีย์หรือสำนักงานรับแลกเปลี่ยนเงินตรา (Cambio) โดยทั่วไปธนาคารจะมีความน่าเชื่อถือที่สุดและมีแนวโน้มที่จะเสนออัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าค่าธรรมเนียมการแลกเงินมีความผันผวนและขึ้นอยู่กับสิ่งที่แลกเปลี่ยนว่าเป็นเงินสดหรือเช็คเดินทางสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมักจะโฆษณาว่า'ไม่มีค่าธรรมเนียมการแลกเงิน'แต่อัตราแลกเปลี่ยนมักจะต่ำกว่าธนาคารและที่ทำการไปรษณีย์เช็คเดินทางมักจะถูกคิดค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสูงกว่าเงินสด
โดยทั่วไปบัตร ATM บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตสามารถใช้กดเงินยูโรจากตู้กดเงินสด (ATM) ทั่วกรุงโรมซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกสำหรับนักเดินทางควรตรวจสอบกับธนาคารของคุณก่อนเดินทางออกจากประเทศ
บัตรเครดิตเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแต่ร้านอาหารร้านค้าขนาดเล็ก หรือบาร์บางแห่งอาจรับเฉพาะเงินสด
เช็คเดินทางไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ถูกหรือสะดวกที่สุดอีกต่อไปกระนั้นหากจำเป็นต้องใช้เช็คเดินทางที่ออกในสกุลเงินยูโรเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้โดยไม่มีค่าบริการในการแลกเปลี่ยนเงินตรา
**ประเทศอิตาลีไม่มีข้อจำกัดในการนำเงินสกุลยูโรเข้ามาในประเทศ
**ประเทศอิตาลีไม่มีข้อจำกัดในการนำเงินสกุลยูโรเข้ามาในประเทศ
ภูมิศาสตร์
ภูมิประเทศ
![]() |
| ภาพถ่ายดาวเทียมประเทศอิตาลี |
ประเทศอิตาลีตั้งอยู่บนคาบสมุทรอิตาลี ถูกล้อมรอบด้วยทะเลในทุก ๆ ด้านยกเว้นด้านเหนือ โดยอาณาเขตทางทิศเหนือติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์และออสเตรียอันมีเทือกเขาแอลป์กั้นแบ่ง ในเทือกเขาแห่งนี้มีภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตก คือภูเขามอนเตบีอังโก (อิตาลี: Monte Bianco) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี เทือกเขาที่สำคัญอีกแห่งของอิตาลีมีชื่อว่า เทือกเขาแอเพนไนน์ (อิตาลี: Appennini) พาดผ่านจากตอนกลางสู่ตอนใต้ของประเทศ แม่น้ำที่ยาวที่สุดในอิตาลีคือแม่น้ำโป (Po) และแม่น้ำไทเบอร์ที่ไหลผ่านกรุงโรม อิตาลีมีดินแดนที่ราบลุ่มริมแม่น้ำราว 25 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งประเทศโดยที่ราบลุ่มแม่น้ำโป ทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นบริเวณพื้นที่ราบที่กว้างใหญ่ที่สุด อิตาลีมีเกาะมากมาย เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือเกาะซิซิลี รองลงมาคือเกาะซาร์ดิเนีย ทั้งสองแห่งสามารถเดินทางได้โดยทางเรือและทางเครื่องบิน
ทางตอนเหนือของอิตาลีมีทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่มากมาย เช่น ทะเลสาบการ์ดา โกโม มัจโจเร และทะเลสาบอีเซโอ เนื่องจากประเทศอิตาลีถูกล้อมรอบด้วยทะเล ดังนั้นจึงมีชายฝั่งทะเลยาวหลายพันกิโลเมตร ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และนักท่องเที่ยวก็นิยมเที่ยวสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของอิตาลีอีกด้วย ประเทศอิตาลีมีทะเลสาบปล่องภูเขาไฟมากอันดับหนึ่งของโลก เมืองหลวงของประเทศอิตาลีคือกรุงโรม และเมืองสำคัญอื่น ๆ เช่นเมืองมิลาน ตูรินฟลอเรนซ์ เนเปิลส์ และเวนิส และภายในประเทศอิตาลียังมีประเทศแทรกอยู่ 2 ประเทศ ได้แก่ ประเทศซานมารีโนและนครรัฐวาติกัน
ทางตอนเหนือของอิตาลีมีทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่มากมาย เช่น ทะเลสาบการ์ดา โกโม มัจโจเร และทะเลสาบอีเซโอ เนื่องจากประเทศอิตาลีถูกล้อมรอบด้วยทะเล ดังนั้นจึงมีชายฝั่งทะเลยาวหลายพันกิโลเมตร ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และนักท่องเที่ยวก็นิยมเที่ยวสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของอิตาลีอีกด้วย ประเทศอิตาลีมีทะเลสาบปล่องภูเขาไฟมากอันดับหนึ่งของโลก เมืองหลวงของประเทศอิตาลีคือกรุงโรม และเมืองสำคัญอื่น ๆ เช่นเมืองมิลาน ตูรินฟลอเรนซ์ เนเปิลส์ และเวนิส และภายในประเทศอิตาลียังมีประเทศแทรกอยู่ 2 ประเทศ ได้แก่ ประเทศซานมารีโนและนครรัฐวาติกัน
ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ คือ ปรอท โพแทช (โพแทสเซียมคาร์บอเนต) หินอ่อน กำมะถัน แก๊สธรรมชาติ น้ำมันดิบ ปลาและถ่านหินอิตาลีมีปัญหาด้านสภาพแวดล้อมเช่นมลภาวะเป็นพิษจากอุตสาหกรรมและการสันดาป ชายฝั่งแม่น้ำเน่าเสียจากอุตสาหกรรม และสารตกค้างจากการเกษตร ฝนกรด การขาดการดูแลบำบัดของเสียจากอุตสาหกรรมอย่างเพียงพอ และปัญหาด้านภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ดินและโคลนถล่ม ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม รวมถึงปัญหาแผ่นดินทรุดตัวในเวนิส
ภูมิอากาศ
![]() |
ยอดเขามงบล็อง ภูเขาที่สูงที่สุดในอิตาลี
และยุโรปตะวันตก
|
ประเทศอิตาลีมีลักษณะอากาศหลากหลายแบบและอาจมีความแตกต่างจากภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนตามลักษณะพื้นที่ตั้งพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศเช่นเมืองตูริน มิลาน และโบโลญญา มีลักษณะแบบอากาศภาคพื้นทวีปที่ค่อนข้างร้อนชึ้น(การแบ่งลักษณะภูมิอากาศแบบเคิปเปน:Cfa)พื้นที่ชายฝั่งติดกับทะเลของแคว้นลิกูเรียและส่วนใหญ่ของคาบสมุทรที่อยู่ใต้ลงไปจากฟลอเรนซ์เป็นภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน(การแบ่งลักษณะภูมิอากาศแบบเคิปเปน:Csa)คือมีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปีโดยมีลมจากแอฟริกาพัดเอาความร้อนและความชี้นเข้ามาพื้นที่ชายฝั่งของคาบสมุทรอิตาลีสามารถมีความแตกต่างกันได้มากจากระดับความสูงของภูเขาและหุบเขาโดยเฉพาะเมื่อถึงฤดูหนาวในที่สูงก็จะมีอากาศหนาวชื้นและมักจะมีหิมะตกภูมิภาคริมทะเลมีอากาศไม่รุนแรงในฤดูหนาวอากาศอุ่นและมักจะแห้งในฤดูร้อนและพื้นที่ต่ำกลางหุบเขามีอากาศค่อนข้างร้อนในฤดูร้อน
ประเทศอิตาลีมีฤดู 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง โดยฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิอยู่ในช่วง 0 °C (32 °F) บนเทือกเขาแอลป์ ถึง 12 °C (54 °F) บนเกาะซิซิลี และในฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 20 °C (68 °F) ถึง 30 °C (86 °F) และอาจสูงกว่านี้ได้ในบางช่วง
วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ITALY
อิตาลี (อังกฤษ: Italy; อิตาลี:
Italia) มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐอิตาลี
(อังกฤษ: Italian Republic; อิตาลี: Repubblica italiana) เป็นประเทศในทวีปยุโรป
บริเวณยุโรปใต้ ตั้งอยู่ในคาบสมุทรอิตาลีที่มีรูปทรงคล้ายรองเท้าบูต และมีเกาะ 2
เกาะใหญ่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนคือ เกาะซิซิลีและเกาะซาร์ดิเนีย
และพรมแดนตอนเหนือแบ่งประเทศโดยเทือกเขาแอลป์ กับประเทศฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์
ออสเตรีย และสโลวีเนีย ประเทศอิตาลีเป็นประเทศสมาชิกก่อตั้งของสหภาพยุโรป
เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ นาโต และกลุ่มจี 8
มีประเทศอิสระ 2 ประเทศ
คือ ซานมารีโนและนครรัฐวาติกัน เป็นดินแดนที่ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่ของอิตาลี
ในขณะที่เมืองกัมปีโอเนดีตาเลีย
เป็นดินแดนส่วนแยกของอิตาลีที่ถูกล้อมรอบด้วยพื้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)


















