สถานที่ท่องเที่ยว


สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอิตาลี



Piazza di Spagna 


บันไดสเปน (Spanish Steps) เป็นบันไดในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่เชื่อมระหว่าง Piazza di Spagna และ Piazza Trinit? dei Monti เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น


Basillica di San Pietro 

มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Basilica of Saint Peter) ชาวอิตาลีเรียกกันว่า Basilica di San Pietro in Vaticano หรือเรียกสั้นๆว่าเซนต์ปีเตอร์บาซิลิกา (Saint Peter’s Basilica) มหาวิหารนี้เป็นมหาวิหารหนึ่งในสี่ของมหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี อีกสามมหาวิหารคือ: มหาวิหารเซ็นต์จอห์แลเตอร์รัน, มหาวิหารซานตามาเรียมายอเร และ มหาวิหารเซ็นต์พอลนอกกำแพง 
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในนครรัฐ วาติกันสร้างทับวิหารเดิมที่ชื่อเดียวกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่นสามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม 
นครรัฐวาติกันเป็น นครรัฐเล็กๆที่ปกครองตนเองแยกออกจากรัฐบาลอิตาลี ผู้ปกครองสูงสุดของวาติกันคือ องค์พระสันตะปาปาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่หนึ่งของคริสตชนนิกายโรมันคาทอลิก ที่ตั้งวัดเชื่อกันว่าเป็นที่ฝังร่างของ นักบุญปีเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาวกสิบสององค์ของพระเยซู นักบุญปีเตอร์เดิมเป็นบาทหลวงองค์แรกของอันติโอก (Antioch) ต่อมาก็ได้สถาปนาขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของโรม เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ระหว่างการออกอากาศทางวิทยุสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ประกาศว่าได้มีการค้นพบที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ หลังจากที่นักโบราณคดีใช้เวลา 10 ปี ศึกษาขุดค้นห้องใต้ดิน (crypt) ภายในมหาวิหาร

Pieta 

Pieta เป็นหนึ่งในประติมากรรมแกะสลักหินอ่อนที่ดีที่สุดในโลก เป็นผลงานของไมเคิลแองเจลโล ภาพนี่เป็นmomentขณะที่พระแม่มารีเข้าไปอุ้มร่างไร้วิญญาณของพระเยซูที่ถูกปลดจากการตรึงบนกางเขน ลองดูใบหน้าพระแม่มารี สีหน้า แววตา ดูเศร้า ได้อารมณ์และงดงามสุดๆ รายละเอียดความพริ้วของเสื้อผ้าที่แกะจากหินอ่อนทั้งก้อน สรีรภาพของพระเยซู รอยตะปูบนหลังมือเท้าของพระเยซู สุดสุด 
ตอนที่ไมเคิลแองเจลโลแกะรูปนี้เขาเป็นศิลปินโนเนมวัย 23 ปีที่เดินทางจากบ้านนอกเมืองฟลอเรนซ์มาโรม ตอนแกะรูปนี้เสร็จ คนในโรมตะลึงในความงาม โดยเข้าใจว่าคนที่แกะเป็นศิลปินอีกท่านนึงที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น จนวันหนึ่ง ไมเคิลแองเจลโลจึงได้ทำสิ่งที่เขาทำครั้งแรกและครั้งสุดท้าย คือแอบมาสลักชื่อตัวเองบนรูปแกะสลัก Michael Angelus Bonarotus Florentinus Faciebat คือนามเต็มของยอดศิลปินผู้นี้ ซึ่งเป็นผลงานเดียวที่เขาสลักชื่อไว้ ว่ากันว่า ไมเคิลแองเจลโลเสียมารดาก่อนมากรุงโรม รูปนี้จึงแกะสลักออกมาได้อย่างได้อารมณ์ของการสูญเสียคนที่รัก และเขาก็แจ้งเกิดจาก Pieta


La Torre di Pisa 

หอเอนเมืองปิซา (อิตาลี: Torre pendente di Pisa หรือ La Torre di Pisa, อังกฤษ: Leaning Tower of Pisa) ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) น้ำหนักรวม 14,500 ตันโดยประมาณ มีบันได 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร 
เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา 


The Colosseo

สนามกีฬาโคลอสเซียม (ประเทศอิตาลี) - The Colosseum หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ขของโลกที่ได้รับการคัดเลือกจาก องค์กร New 7 Wonders เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือประมาณปี ค.ศ. 80 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบัน 
แต่เดิมสัญลักษณ์ของกรุงโรมแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า ฟลาเวียน แอมพิเธียเตอร์ ตามนามสกุลของจักรพรรดิผู้ให้การสนับสนุนการก่อสร้าง โดยนับเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมาใน สมัยอาณาจักรโรมัน ครั้นเมื่อเสร็จสมบูรณ์ โคลอสเซี่ยมได้ถูกใช้จัดการแข่งขันกลาดิเอเตอร์ การประหาร และการแสดงละครเกี่ยวกับทวยเทพเพื่อมอบความบันเทิงให้แก่ผู้ชม ปัจจุบัน สนามกีฬาโคลอสเซียมได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านโทษประหารชีวิต โดยโคลอสเซียมจะส่องสว่างด้วยสีเหลืองทุกครั้งที่มีการกลับคำตัดสินหรือยก เลิกโทษประหารชีวิตไม่ว่าจะที่ใดในโลก ในบางครั้งจะมีการเรียกชื่อ โคลิเซียม (Coliseum) 

Fontana di Trevi 

น้ำพุเทรวี่แห่งนี้ เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" ที่แห่งนี้เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดเป็นอันขาด เนื่องจากมีความสวยงาม ทางสถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก แต่กว่าจะออกมาสวยแบบนี้ มีการสร้างขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งลงตัวที่แบบดีไซน์ของ สถาปนิกชื่อ Francesco Salvi ในช่วงศตวรรษที่ 17 นี้เอง น้ำพุเทรวี่นี้ ถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่สร้างความประทับให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเลยที เดียว ส่วนกลางของน้ำพุนั้น มีรูปปั้นของเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ขี่รถม้าติดปีก แสดงถึงความมีสุขภาพที่แข็งแรง และความอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักร 
ตามธรรมเนียมแล้ว นักท่องเที่ยวที่มาชมน้ำพุเทรวี่แห่งนี้ ควรจะโยนเหรียญ 1 เหรียญลงไปในสระ โดยมีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญลงไปแล้ว จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้งนึง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น